03 ธันวาคม 2559

เดินทางไปต่างประเทศ

เรียนท่านผู้อ่านที่เคารพรัก

วันที่ 7 มีนาคม 2553 ข้าพเจ้าจะออกเดินทางไประเทศอินเดีย โดยมีกำหนดในเบื้องต้น 4 วัน คือจะกลับในวันที่ 10 มีนาคม ดังนั้น ระหว่างนี้ คงไม่สามารถตอบปัญหาไ้ด้ แต่ที่ประเทศอินเดีย ข้าพเจ้าสามารถเข้าอินเตอร์เน็ตได้ ก็จะตอบปัญหาต่างๆตามปกติ อนึ่ง ช่วงนี มีพวก spam เข้ามารบกวนอยู่มากมายจนไม่ทราบว่า มีใครเขียนคำถามเข้ามาบ้าง เอาไว้ผมกลับจากอินเดีย ก็จะให้Programmer เขียนโปรแกรมลบและทำลายบรรดาตัวspamที่เข้ามารบกวน

สุดท้ายนี้ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขมากๆ ขอให้โชคดี
หมอเสรี



สวัสดีปีใหม่ อีกครั้ง

ต้องขอประทานโทษท่านผู้อ่านทุกท่านทีช่วงนี้ เข้าอินเตอร์เน็ต น้อยไปหน่อย เนื่องด้วยงานยุ่งมาก แต่ก็มีเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับคนไข้ผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย มีทั้งที่ตื่นเต้น จนน่ากลัวและน่าสนใจ อย่างเช่น เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ก็ได้พบคนไข้Endometriosis 1 ราย ทีมีChocolate cyst และมีเยื่อบุมดลูกเต็มไปหมดที่บริเวณต่ำสุดของอุ้งเชิงกราน(Culdesac) แม้จะจี้ด้วย Argon ก็คงยากที่จะหาย ผู้ป่วยคงต้องรีบมีบุตร เพื่ออาศัยฮอร์โมนจากรกไปทำลายเยื่อบุมดลูกส่วนที่เหลือ อีกรายเป็นเนื้องอกมดลูกก้อนใหญ่มาก พอสมควร การผ่าตัดผ่านกล้องเต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากการประสานกับผู้ช่วย ยังไม่ดีพอ ต้องผ่าตัดทางด้านบนและทางช่องคลอดสลับกัน กินเวลานานถึง 4-5 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีปัญหาอื่นอีก

ข้าพเจ้าคงมีโอกาสเล่าให้ฟังในภายภาคหน้า ขอให้ทุกท่านโชคดี มีความสุข
หมอเสรี








สวัสดีปีใหม่ พ.ศ. 2553

สวัสดีปีใหม่ แด่ เพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ในปี พ.ศ. 2553 นี้ ขอให้ทุกๆท่น ที่มีโอกาสผ่านเข้ามาใน Website นี้ มีความสุขสมหวังดังตั้งใจ มีสุขภาพที่ดี มีความสำเร็จในหน้าที่การงาน และความรัก

เนื่องด้วยปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าอาจตอบข้อข้องใจช้าไปบ้าง ลงเรื่องราวน้อยไปหน่อย และไม่ค่อยได้เขียนDiary ข้าพเจ้าต้องขอประทานโทษ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ข้าพเจ้าจะพยายามเขียนDiary ทุกวัน เพื่อให้ข้อมูล Update หรือการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น อาทิ ข้าพเจ้าได้เรียนเชิญ อาจารย์แพทย์อีกหลายท่าน พยาบาลผู้มากประสบการณ์ หรือผู้รู้ต่างๆมาช่วยตอบคำถาม เขียนเรื่องราวน่ารู้ โดยจะออกแบบ เพิ่มเติมในห้องต่างๆ (ในช่วงแรกๆ ท่านอาจารย์เหล่านี้ อาจเพียงร่วมตอบคำถามไปก่อน คงต้องรอให้Programmerเขียนprogram ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง)

เรื่องราวทางการแพทย์นั้นมีมากมาย และเกิดปัญหาขึ้นทุกวัน ข้าพเจ้าจะพยายามเขียน และตอบปัญหา ทั้งภาพรวม/ส่วนตัว อย่างเต็มควมสามารถ

สุดท้ายนี้ ขอให้เ่พื่อนผู้อ่านมีความสุข และแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างดี รวมทั้งมีสุขภาพที่แข็งแรง
หมอเสรี



กินยาละลายลิ่มเลือดก่อนผ่าตัด

วันนี้ ข้าพเจ้าผ่าตัดให้กับคนไข้รายหนึ่ง ชื่อ คุณเล็ก ซึ่งเป็นกระบังลม (ช่องคลอดหย่อน)หย่อนจนมดลูกหลุดออกมาจากช่องคลอด คนไข้อายุ 66 ปี ความจริง!! คนไข้รายนี้ กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดเมื่อ วันศุกร์ที่ผ่านมา เผอิญ!! วันพฤหัส พยาบาลที่หอผู้ป่วย ซักถามคนไข้ ได้ความว่า เธอรับประทานยาละลายลิ่มเลือดตัวหนึ่ง ชื่อ Cardipin เพราะเป็นความดันโลหิตสูง ยาตัวนี้มี Aspirin เป็นส่วนประกอบ โชคดีที่มีการซักประวัติก่อน มิฉะนั้น หากผ่าตัดไปในวันศุกร์ คนไข้มีหวังได้รับอันตรายจากภาวะเลือดไหลออกไม่หยุด

ข้าพเจ้าได้โทรศัพท์ถามอายุรแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องหัวใจและหลอดเลือด คุณหมอบอกว่า จำเป็นต้องหยุดยาก่อน 5 วัน จึงจะผ่าตัดได้ โดยไม่มีเลือดไหลผิดปกติหลังผ่าตัด วันนี้ (วันอังคาร) ข้าพเจ้าจึงผ่าตัดเอามดลูกของคุณเล็กออกทางช่องคลอดและตกแต่งช่องคลอดไปด้วย (Vaginal Hysterectomy) ใช้เวลาผ่าตัดไม่นานนักประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ โดยใช้อุปกรณ์พิเศษ สังเกตว่า เลือดหยุดได้ดี ข้อผิดพลาดเช่นนี้เกิดขึ้นง่ายมาก เพราะคนไข้รักษาโรคความดันโลหิตสูง แต่กลับรับประทานยาละลายลิ่มเลือด

สัปดาห์ก่อน ข้าพเจ้าก็ผ่าตัดเอามดลูกและรังไข่ออกทางหน้าท้องให้กับคนไข้ ชื่อ คุณประยงค์ อายุ 44 ปี ซึ่งเคยผ่าตัดทำbypass เส้นเลือดที่หัวใจ เมื่อปี พ.ศ. 2551 คนไข้มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงร่วมด้วย เธอก็กินยาละลายลิ่มเลือดเช่นกัน แต่คนละตัว กับคุณเล็ก คนไข้รายนี้ ก็หยุดยาก่อน 1 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด ข้าพเจ้าได้ผ่าตัดอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็เสร็จ โดยใช้อุปกรณ์พิเศษเช่นกัน เพราะกลัวภาวะเลือดไหลผิดปกติหลังผ่าตัด...

หลังผ่าตัดเพียงวันเดียว พอคนไข้รับประทานได้ อายุรแพทย์ ก็ให้คุณประยงค์รับประทานยาเดิมทั้งหมด ข้าพเจ้ากลัวมากว่า คนไข้จะมีเลือดออกภายในช่องท้องอีก แต่ก็ไม่พบว่า เธอเป็นอะไร แต่ก็แปลก!! นี่ผ่านมา 7-8 วันแล้ว คนไข้ยังไม่ได้กลับบ้านเลย เพราะมีภาวะแทรกซ้อน คือ เมื่อวาน เธอเกิดมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจนช็อค (Hypoglycemia)พวกเราก็ปรึกษาอายุรแพทย์มารักษา จนเธอปลอดภัย

โชคดี ที่คนทั้งสองมีประกันสังคม ทั้งสองคนจึงแทบไม่เสียเงินเลย แต่..นี่คือตัวอย่างหนึ่งของคนไข้ที่กินยาละลายลิ่มเลือดก่อนผ่าตัด ซึ่งจำเป็นที่เราจะต้องปรึกษาอายุรแพทย์ เพื่อหยุดยาก่อนผ่าตัด ประมาณ 5-7วัน มิฉะนั้น เราอาจสูญเสียคนไข้เหล่านี้ก็ได้ เนื่องจากเลือดไหลออกไม่หยุดหลังผ่าตัด


กรุณาอย่าทำบาป โดยไม่ตั้งใจ


หลายวันก่อน ข้าพเจ้าได้ซื้อปลาหมอตัวเล็กประมาณ ร้อยกว่าตัวจากตลาดสวนหลวง ร. 9 และเอาไปปล่อยที่
วันลานบุญ แม่ค้า ได้จัดแบ่งปลาตัวเล็กๆเหล่านี้ออกเป็น 2 ถุงใหญ่ แต่ได้เอาเจ้า 2 ถุงใหญ่ใส่ในถุงหิ้วที่ใหญ่กว่าเพียง 1 ใบ ข้าพเจ้าได้นำถุงปลาใบนี้โดยสารรถแทกซี่กลับบ้าน เพื่อชักชวนภรรยาและลูกชายไปปล่อยด้วยกัน พอขับรถไปถึงวัดลานบุญ ข้าพเจ้าก็ให้ลูกและภรรยารีบลงจากรถเพื่อไปปล่อยปลาก่อน เพราะได้เสียเวลา(รวมจากสวนหลวง ร.9 จนถึงวัดลานบุญ)ประมาณ 40 นาที ทั้งสองคนไปยืนปล่อยที่หน้าศาลาน้ำ ส่วนข้าพเจ้าก็รีบไปจอดรถ และจะมาอนุโมทนาบุญภายหลัง ผลปรากฏว่า ถุงปลาน้อยของภรรยา ก็ปล่อยปลาเป็นไปได้ด้วยดี แต่ถุงอีกถุงหนึ่งที่ลูกชายถือ ปลาที่อยู่ข้างในกลับตายทั้งหมด จำนวน ประมาณ 50 กว่าตัว

ข้าพเจ้าและลูกชายรู้สึกเศร้าใจมาก เพราะไม่เพียงแต่ ไม่ได้บุญ ยังทำบาปแบบเต็มๆ โดยไม่ตั้งใจ พอสอบสาวราวเรื่อง ปรากฏว่า ที่ปลาตาย ก็เพราะปากถุงที่ปลาตายนั้น คลายออก เนื่องจากน้องคนขายผูกปากถุงไม่แน่น เมื่อนำ 2 ถุงมาอยู่ในถุงใหญ่ใบเดียวกัน ถุงใบที่ปากถุงแน่น ก็เบียดและทับอีกถุงจนแบน ปลาทั้งหมดในถุงแบนขาดอากาศหายใจ สิ้นชีวิตทันที แม้เราจะนำปลาใส่ถุงเดินทางมาเพียงแค่ ไม่ถึง 1 ชั่วโมง..จริงๆแล้ว ระหว่างเดินทางไปปล่อยปลา 

ข้าพเจ้าได้เล่าการทำบาปกรณีปล่อยปลาของเพื่อนคนหนึ่งให้ลูกชายฟังว่า เพื่อนผมคนหนึ่งหวังดี อยากทำบุญ จึงซื้อปลามามากมายใส่ถุง นำกลับบ้าน เพื่อจะไปปล่อยร่วมกับภรรยา ปรากฏว่า งานยุ่งมาก ตกเย็น เมื่อจะนำไปปล่อย ปรากฏว่า ปลาตายทั้งหมด ข้าพเจ้าบอกกับลูกว่า เวลาปล่อยสัตว์นั้น จงอย่าได้ประมาทเช่นนี้ พอไปถึงวัดกลับเป็นว่า ข้าพเจ้าเองเป็นผู้ทำบาปในทำนองเดียวกัน คนเรานั้น อย่าได้ไปว่าร้ายคนอื่นเลย ทำตัวเองให้ดีที่สุดเป็นพอ
วันนี้ ข้าพเจ้ากลับไปที่ร้านเดิม ที่ร้านแผงลอยแห่งนี้ มีคนซื้อปลาไปปล่อยน้อยมาก เหลือปลาใหญ้น้อย 2 ร้อยกว่าตัว เขาขอให้ข้าพเจ้าเหมาไปปล่อย ข้าพเจ้าก็ยินดี และต่อราคาเท่าที่มีเงินสดในกระเป๋า เหลือเพียงเงินค่าแทกซี่กลับบ้าน ก็พอ

ข้าพเจ้ากลัวจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย จึงบอกให้แม่ค้าระวังเรื่องนี้ แม่ค้าพูดว่า 'สำหรับหนู จะไม่เกิดเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอน หนูใส่อากาศลงไปในถุงและผูกถุงแน่นหนา ปลาสามารถอยู่ได้ถึง 2 ชั่วโมง' คำพูดนี้ แสดงว่า แม่ค้าเหล่านี้ ทราบดีถึงเรื่องว่า ปลาจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ในถุงและควรจะผูกปากถุงอย่างไร?? เพราะวันที่ข้าพเจ้ากลับไปต่อว่านั้น แม่ค้าก็ต่อว่า น้องสาวพวกเขาอีกทีว่า 'เป็นคนทำบาปทั้งหมด คนซื้อไ่ม่บาปหรอก เพราะไม่รู้'

วันนี้ ข้าพเจ้าและลูกรีบนำปลาเหล่านี้ไปปล่อยลงในแม่น้ำ ที่มีนำ้ไหล ปลาใหญ่น้อยเหล่านี้ดำผุดดำว่ายอย่างอิสระ อยู่ใกล้ๆนั้น สักพัก เหมือนกับจะขอบคุณเรา แล้วก็แหวกว่ายหายไปกับสายน้ำ

ที่ข้าพเจ้าตั้งใจจะเล่า ก็เพื่อให้ทุกคนที่ปล่อยปลาบ่อยๆ 'โปรดอย่านำปลาที่ใส่ถุงแล้ว มาใส่ในถุงหิ้วใหญ่ใบเดียว ช่วยกรุณา แยกถุงใบหนึ่ง กับถุงถือ 1 ใบ ด้วย จะได้ไม่เกิดการทับกัน' ขอให้ทุกท่านโชคดี มีบุญจากการทำทาน และไม่ทำบาป โดยไม่ตั้งใจ





ทักทาย หลังจากห่างหายไปนาน

ก่อนอื่น ต้องขอประทานโทษทุกท่าน ที่เข้ามาอ่านใน Website เนื่องจากตอบปัญหาให้ไม่ทัน ปัจจุบัน ผมผ่าตัดเกือบทุกวัน กลับถึงบ้านค่อนข้างค่ำ รู้สึกเหนื่อย และเข้านอนเลย เปิดอ่านemail และตอบปัญหาใน emailก่อน ซึ่งบางที่ก็ตอบช้า อาจไม่ทันใจบางท่าน แต่จะพยายามตอบให้มากที่สุดเท่าที่จะตอบได้ เรื่องราวที่น่าสนใจทางการแพทย์มีมาก ปัญหาก็มากตามไปด้วย

หากผมมีเวลาเขียน คงเขียนเรื่องราวน่าสนใจเหล่านี้ วันละอย่างน้อย 1 เรื่อง แต่เนื่องจากความอ่อนเพลีย จึงไม่ได้เขียน วันเวลาล่วงเลย อารมณ์ ความรู้สึก ก็ห่างหาย และจำรายละเอียดไม่ได้ จึงไม่ได้เขียนมาเล่าให้ฟัง 

อนึ่ง เรื่องราวเล็กๆน้อยๆ บางอย่างน่าสนใจอย่างมาก หากพิจารณาให้ดี อาจช่วยนำพาชีวิตเราให้ปลอดภัยได้ อาทิ เรื่องหนึ่งที่พบเม่อไม่นานมานี้ คือ ลูกสาวคนไต้หวันคนหนึ่ง ถูกรถคนอื่นเฉี่ยวชนที่ถนนมอเตอร์เวย์ เธอหยุดรถและลงมาดู ปรากฏว่า รถที่ตามมาด้วยความเร็วสูง เบรกไม่ทัน ชนเธอเข้สอย่างจัง จนเสียชีวิตคาที่ นี่ก็เป็นอุทาหรณ์ เรื่องการเฉี่ยวชน ณ บริเวณอันตราย จงอย่าได้หยุดรถลงมาโดยเด็ดขาด อันตราย

อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเดือนก่อน รถข้าพเจ้า จู่ๆ ก็เครื่องดับที่บ้าน startไม่ติด พยายามยังไง ก็ไม่เป็นผล โทรศัพท์ถามบริษัทเครื่องกันขโมย ก็คิดว่า ไม่ใช่ เพราะ central lock ยังทำงาน สุดท้ายที่เจอ คือ ขี้เกลือที่ติดบริเวณขั้วแบตตอรี่มากเกิน พอขัดถูเอาออก เครื่องก็ใช้การได้ หากเอาเข้าอู่ และเจอช่างที่ไม่ซื่อสัตย์ มีหวังจ่ายเงินมากมาย 

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ตอนเที่ยงคืน ข้าพเจ้าขับรถออกไปรับลูก ที่sport club แห่งหนึ่ง พอขับออกไป ได้ไม่กี่ร้อยเมตร ที่ถนนใหญ่ จู่ๆ เครื่องยนต์ ก็ดับ ไฟกระพริบ ก็ไม่ติด ข้าพเจ้าต้องลงไปเข็น หากเป็นตอนกลางวัน คงถูกรถยนต์ที่ตามมาชนแล้ว แต่นี่เป็นตอนเที่ยงคืน รถมีน้อยมาก ข้าพเจ้าจึงโชคดี ลงไปเข็นได้ และเข็นเข้าข้างทาง โชคดีอีกนั่นแหละ ที่อยู่ใกล้ร้านขายข้าวต้มโต้รุ่ง จึงทิ้งรถไว้และตัดสัญญาณกันขโมย เพราะมีเสียงร้องจากสัญาณเป็นระยะเบาๆ โชคดี ที่มีตัวล็อคเกียและที่เหยียบเบรก จึงทิ้งรถไว้ได้ ตอนเช้ามาดู ก็ยังไม่หาย และไม่ถูกทุบกระจก พอเรียกช่างมาดู ปรากฏว่า เป็นแค่ แบตตอรี่หมด เมื่อเปลี่ยนแบต ก็ใช้ได้ 

คนเรานั้น ต้องอาศัยโชคช่วยด้วย หากเหตุการณ์เกิดตอนกลางวัน ก็จินตนาการไม่ออกว่า จะเกิดเหตุการณ์ร้ายอะไรบ้าง

ข้าพเจ้าเล่าไว้เล่นๆ และต้องขอโทษ หากตอบช้าไปบ้าง หรือไม่ได้ตอบในบางคำถาม

Change

ก่อนอื่น ผมต้องขอประทานผู้อ่านทุกๆท่าน ที่ไม่ได้ Update ข้อมูล เพราะผมป่วยเป็น Recurrent prostitis หมายถึงต่อมลูกหมากอักเสบซ้ำ กล่าวคือ หลังจากทานยาฆ่าเชื้อกลุ่ม Quinolone เป็นเวลานานถึง 3 เดือน ก็ยังไม่หาย แถมกลับเป็นซ้ำอีก ผมตัดสินใจใช้ยากลุ่มนี้ที่สูงขึ้น บวกกับยา Genta หยดเข้าเส้นเลือด 5 วัน ปรากฏว่า อาการยังคงแย่อยู่ เผอิญ! ผมได้ไปแจกซองผ้าป่าที่ตัวเองเป็นประธาน ได้พบกับหมอท่านหนึ่ง ซึ่งแม้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องระบบทางเดินปัสสาวะ แต่มีความเชี่ยวชาญเรื่องยา เพราะจบเภสัช มาก่อนสอบเข้าแพทย์ คือ บอกให้ผมเปลี่ยนเป็นกลุ่ม Cephalosporin เพราะยาเข้า soft tissue ได้ง่าย และต่อมลูกหมาก ก็เป็น soft tissue ส่วนยากลุ่ม Quinolone ยาจะถูกขับทางไต จึงรักษาทางเดินปัสาวะอักเสบได้ดี ผมจึงรีบเปลี่ยนยามาเป็น Cefarosporin ฉีดเข้าเส้น และยากินในกลุ่มนี้ รูปแบบเม็ด (Omnicef) ทำให้อาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่เอง การเลือกแพทย์ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น แม้คำแนะนำครั้งแรก จะดีและเป็นของSpecialist แต่มันไม่ถูกกับตัวเรา เราก็ต้องเปลี่ยน อย่ารีรอ การเปลี่ยนหมอ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ขออย่างเดียว อย่าเปลี่ยนไปพบกับ 'หมอปลอม' ซึ่งมีอยู่มากมาย ที่ไม่มีความรู้ครอบคลุมในโรคของคุณ
ไม่ต้องเกรงใจหรอก แม้แต่คนไข้ของผมเอง ก็ตาม หากมีปัญหา เกิดขึ้น เช่นไปตรวจพบเซลล์มะเร็ง หรือสงสัยมะเร็งของอวัยวะสืบพันธ์ ก็เปลี่ยนไปหาหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องมะเร้งอวัยวะสืบพันธุ์ได้ ไม่ต้องเกรงใจ และไม่ต้องมาบอกก็ได้ จริงๆแล้ว คนไข้ของผม หากเกินความสามารถ เช่นโรคเปลี่ยนแปลงไปเป็นมะเร็งดังว่า หรือโรคอื่นที่ไม่เชี่ยวชาญ ผมก็จะส่งให้หมอท่านอื่นไป ไม่คิดจะเก็บคนไข้ไว้

ไม่นานมานี้ มีคนไข้ผมรายหนึ่ง อายุ ราว 37 - 38 ปี ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ได้ไปปรึกษาแพทย์ คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดและตกแต่งเต้านมเลย เพราะยังเป็นระยะต้น แต่คนไข้กลัวเจ็บ จึงไปปรึกษากับคุณหมอฝังเข็ม หมอก็บอกว่า รักษาได้ผลมาหลายราย รวมทั้งคนที่เป็นระยะท้ายๆด้วย คนไข้ผมเชื่อ จึงเสียเวลาไป 2 เดือน ต่อมา สามีคนไข้โทรศัพท์มารายงานว่า มีอาการบวมแถวใบหน้า นั่นแสดงว่า ระยะโรคเปลี่ยนแล้ว การรักษาตอนนี้ คงต้องฉายแสง แล้ว ถึงผ่าตัดแบบตัดหมด ไม่สามารถตกแต่งได้ นี่เป็นตัวอย่างว่า อย่าหันไปพึ่งคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญไม่ถูกกับโรคของเรา มิฉะนั้น อาจเกิดความผิดพลาดได้ สำหรับผม ผิดพลาด แต่ก็ไม่ตายและแก้ไขได้ แต่อีกกรณี คงต้องแล้วแต่โชควาสนา
ขอให้โชคดี










เดินทางไปต่างประเทศ

เรียนท่านผู้อ่านที่เคารพรัก วันที่ 7 มีนาคม 2553 ข้าพเจ้าจะออกเดินทางไประเทศอินเดีย โดยมีกำหนดในเบื้องต้น 4 วัน คือจะกลับในวันที่ 10 ม...